ต่างชาติเยอะเพราะใกล้สุเหร่าดัง
ด้านผู้ดูแลอพาร์ตเมนต์เปิดเผยว่า เหตุที่มีชาวต่างชาติเข้าพักจำนวนมากเพราะตรงข้ามกันมีสุเหร่าอัลมาดานี มีนบุรี เป็นสุเหร่ามีความสำคัญระดับโลก มักมีการประชุมกันของผู้นับถืออิสลามครั้งสำคัญๆ มีคนมาร่วมงานประมาณ 3,000 คน จึงมีชาวต่างชาติต้องการที่พักจำนวนมาก สำหรับที่แห่งนี้เปิดให้บริการมาได้ 3 ปีไม่เคยมีเหตุร้ายใดๆ และยินดีให้ความร่วมมือกับตำรวจ ส่วนผู้พักอาศัยชาวมุสลิมคนหนึ่งกล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า การที่มุสลิมต่างชาติมาอาศัยในพื้นที่แล้วออกไปก่อเหตุร้าย เป็นภาพที่ไม่ดีเลย ส่งผลให้คนมองว่ามุสลิมโหดร้าย มาทำอย่างนี้ไม่ดีเลย อยากให้เลิกการกระทำเสีย
พยานเห็นผู้ต้องสงสัยมาหาเพื่อน 2 คน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ชาวบ้านในละแวกใกล้เคียงหอพักไมมูณาพากันพูดถึงเหตุการณ์ หลังจากมีข่าวว่าเจ้าหน้าที่เข้าควบคุมตัวคนร้ายที่พูลอนันต์อพาร์ตเมนต์ว่า มีชายชาวต่างชาติ ผิวขาว สวมกางเกงขาสามส่วน เสื้อยืด ผมรองทรง ใช้ผ้าเช็ดหน้าปิดบังใบหน้า สะพายเป้สีดำขนาดใหญ่ ปั่นจักรยานออกมาจากหอพักไมมูณาไปตามถนนราษฎร์อุทิศมุ่งหน้าหนองจอกแล้วไม่กลับมาอีกเลย 1 ในชาวบ้านเปิดเผยว่า เคยเห็นชายคนดังกล่าวปั่นจักรยานเข้าออกหอพักบ่อยครั้ง แต่ไม่มีใครรู้จัก ด้านแม่ค้าขายผ้าหน้าปากซอยราษฎร์อุทิศ 25/8 เปิดเผยว่า ตนเคยเห็นชายชาวต่างชาติที่ถูกจับกุมไปเมื่อวานเดินทางมาพบเพื่อนชาวต่างชาติที่พักอยู่หอไมมูณาบ่อยๆ แต่ลักษณะของชายคนดังกล่าวไว้ผมหยิกยาว หนวดเครารุงรัง ส่วนชายชาวต่างชาติ 2 คนที่มาพบผิวขาวหน้าตาดีทั้งคู่ พูดกับคนไทยด้วยภาษาอังกฤษ แต่พูดกันเองด้วยภาษาที่ฟังแล้วไม่เข้าใจ ภายหลังจากมีการจับกุมตรวจค้นที่หนองจอกก็ไม่พบชาวต่างชาติทั้ง 2 คนอีกเลย
รวบครอบครัวปาเลสไตน์พร้อมปุ๋ยยูเรีย
มีรายงานว่า ในการตรวจค้นห้องพักอีกแห่งย่านหนองจอกเมื่อช่วงดึกวันที่ 29 ส.ค. ที่มีข้อมูลเชื่อมโยงกับนายบิลา มูฮัมหมัด ผลตรวจค้นห้องพักอีกแห่งใกล้ๆกัน พบครอบครัวชาวปาเลสไตน์ 4 คน เจ้าหน้าที่ถึงผงะเมื่อเจอดินระเบิดร้ายแรงจำนวนมากซุกซ่อนอยู่ภายในห้องพัก พร้อมอุปกรณ์ระเบิด แบตเตอรี่ ซิมโทรศัพท์มือถือ และปุ๋ยยูเรีย ส่วนผสมดินระเบิด 3 กิโลกรัม เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวทั้งหมดไปสอบสวน สืบสวนข้อมูลพบมีความเชื่อมโยงการติดต่อเช่าพักห้องที่เกิดเหตุ น่าเชื่อเป็นจุดประกอบระเบิดโดยแยกชิ้นส่วนอุปกรณ์ระเบิดและปุ๋ยยูเรีย เพื่อป้องกันการเข้าตรวจค้นของเจ้าหน้าที่ หลังพบของกลางควบคุมตัวทั้ง 4 คนพร้อมของกลางไปสอบสวนที่ พัน ร.มทบ.11
ค้นหลายจุดทั้งกรุงเทพฯ-ปริมณฑล
มีรายงานว่า ชุดสืบสวนนครบาลและกองปราบปรามได้กระจายกำลังเข้าตรวจค้นเป้าหมายที่พักหลายแห่งที่มีข้อมูลเชื่อมโยงการเข้าตรวจค้นจับกุมนายบิลา มูฮัมหมัด อายุ 47 ปี ผู้ต้องหาชาวตุรกี เนื่องจากมีข้อมูลเชื่อมโยงการตระเตรียมวางแผนเพื่อก่อเหตุระเบิดที่แยกราชประสงค์ โดยมีกลุ่มชาวต่างชาติ 11 เป้าหมายในพื้นที่กรุงเทพฯและปริมณฑล เพื่อขยายผลหาผู้ที่เกี่ยวข้องและมือระเบิดที่ขออนุมัติหมายจับกุมไปแล้ว
กองปราบฯเร่งขยายผลผู้เกี่ยวข้อง
ที่กองปราบปราม เมื่อเวลา 14.00 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.ต.ต.อัคราเดช พิมลศรี ผู้บังคับการกองปราบปราม (ผบก.ป.) พ.ต.อ.ประเสริฐ พัฒนาดี รอง ผบก.ป. พ.ต.อ.เอกรักษ์ ลิ้มสังกาศ รอง ผบก.จร. พ.อ.วิจารณ์ จดแตง หัวหน้าฝ่ายกฎหมาย หน่วยเฉพาะกิจปฏิบัติการ คสช. พร้อมด้วยชุดสืบสวนคลี่คลายคดีระเบิดส่วนของกองปราบปราม ร่วมประชุมสรุปผลการปฏิบัติการหลังจับกุมผู้ต้องหาคดีระเบิดพร้อมวางแนวทางการสืบสวน ทั้งนี้มีรายงานว่า ที่ประชุมได้มีการแบ่งงานให้แต่ละกองกำกับการทำหน้าที่สืบสวนร่วมกับตำรวจนครบาลออกหาข่าวจากกล้องวงจรปิดเพิ่มเติมในบริเวณอพาร์ตเมนต์ของผู้ต้องหา เพื่อขยายผลในกรณีที่อาจจะยังมีผู้ร่วมขบวนการหลงเหลืออยู่
ประสานตุรกีตรวจพาสปอร์ตปลอม
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ชุดสืบสวนกองปราบฯกำลังเร่งตรวจสอบซิมการ์ดโทรศัพท์มือถือที่ยึดได้จากที่เกิดเหตุเพื่อขยายผลถึงบุคคลอื่นๆที่อาจจะเกี่ยวข้องกับขบวนการ รวมทั้งเร่งตรวจสอบหนังสือเดินทางโดยให้ร่วมกับสถานทูตตุรกีเพื่อหาแหล่งที่มาที่ไปและข้อมูลหมายเลขในหนังสือเดินทางด้วย อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดของอาคารที่พักของผู้ต้องหาช่วงเวลาเกิดเหตุยังไม่พบมีผู้ต้องสงสัยรายอื่นปรากฏ ทั้งนี้กองปราบฯได้ประสานงานกับ สน.มีนบุรี เพื่อให้ติดตามตัวผู้เปิดห้องเช่าเลขที่ 9106 อาคารไมมูณา การ์เด้นโฮม ซอยบุญยะบา แขวงแสนแสบ เขตมีนบุรี มาสอบสวน เนื่องจากเจ้าของหอพักดังกล่าวได้ให้การกับตำรวจว่ามีหญิงไทยคนหนึ่งใช้ชื่อว่า “ไมซาเลาะ” อายุประมาณ 30-35 ปีเป็นคนมาเปิดห้องเช่าไว้
ตามล่าสาวไทยผู้เช่าห้องที่พบปุ๋ยยูเรีย
สำหรับห้องพักที่อาคารไมมูณา การ์เด้นโฮม แห่งนี้ตำรวจเข้าค้นเมื่อคืนที่ผ่านมาหลังจากผู้ต้องหาระบุว่าเป็นจุดซุกซ่อนวัตถุระเบิด ผลตรวจค้นพบปุ๋ยยูเรีย ตราเรือไวกิ้ง สูตร 40-0-0 ผงสีขาว ดินเทา 2 ขวด กระป๋องขนาด 12×7 เซนติเมตร 6 กระป๋อง สายไฟสีดำ หลอดไฟฟ้าประดับต้นไม้ สายไฟสีน้ำเงิน นาฬิกาข้อมือ 4 เรือน นาฬิกาตั้งโต๊ะ 1 เรือน นอต 1 ห่อ กล่องวิทยุสื่อสาร กล่องเปล่าพลาสติก รถบังคับ และกระเป๋าเป้ใส่หนังสือ เจ้าหน้าที่ยึดอุปกรณ์ทั้งหมดไปตรวจสอบ ทั้งนี้ ระหว่างการตรวจค้นยังไม่พบนางไมซาเลาะ เจ้าของห้อง ซึ่งขณะนี้ตำรวจกำลังติดตามตัวอย่างเร่งด่วนเพราะเป็นที่แน่นอนว่า นางไมซาเลาะน่าจะมีส่วนเกี่ยวพันกับขบวนการวางระเบิดครั้งนี้
สงสัยเกี่ยวพันแก๊งปลอมพาสปอร์ต
ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.ท.ประวุฒิ ถาวรศิริ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า เจ้าหน้าที่จะเดินหน้าสอบสวนชายชาวต่างชาติที่ถูกจับกุมได้เมื่อวันที่ 29 ส.ค. กรณีต้องสงสัยว่า เชื่อมโยงกับเหตุการณ์ลอบวางระเบิดบริเวณแยกราชประสงค์และท่าเรือสาทร เบื้องต้นคาดว่า สาเหตุไม่ใช่เรื่องเกี่ยวกับการก่อการร้าย แต่เป็นเรื่องความเจ็บแค้นส่วนตัว อาจจะเกิดจากการที่เจ้าหน้าที่เคยทลายแก๊งปลอมพาสปอร์ตก่อนหน้านี้ อาจเป็นกลุ่มที่อาจจะใกล้เคียงกับกลุ่มที่เราเคยควบคุมตัวไว้ และอาจเกิดความไม่พอใจที่เราดำเนินการกับพวกเขา ญาติพี่น้องเขา ดังนั้น ต้องใช้ความระมัดระวังในการสืบสวน เพื่อไม่ให้สาเหตุการโกรธเคืองขยายผลไป หลักฐานทั้งหมดต้องพิสูจน์ให้ได้ว่า เขาเป็นคนทำแน่นอน เห็นพาสปอร์ตปลอมเป็นตั้งประมาณ 200 เล่มมั้ย เป็นกระบวนการในการนำคนมาแล้วแปลงสัญชาติส่งไปยังประเทศที่สาม เดิมเป็นกระบวนการนี้อยู่ แต่เราไปทลายกระบวนการนี้ก็น่าจะมีความโกรธแค้นทำให้เกิดเรื่องพวกนี้ขึ้นได้
หลักฐานชัดโยงระเบิดท่าเรือสาทร
พล.ต.ท.ประวุฒิกล่าวต่อว่า ขณะนี้ยังไม่สามารถสรุปได้ว่าเป็นคนเดียวกันกับผู้ที่วางระเบิด หรือเป็นหนึ่งในกระบวนการเท่านั้น จะเห็นว่ายังมีความเป็นไปได้ทั้ง 2 ด้าน โดยจะสอบสวนข้อมูลการใช้โทรศัพท์ในวันเกิดเหตุ เพื่อเชื่อมโยงถึงบทบาทของผู้ต้องสงสัยดังกล่าว รวมถึงการสืบสวนอีกหลายจุดเพิ่มเติม และทำการพิสูจน์สัญชาติของชายต่างชาติคนดังกล่าว สำหรับการจับกุมผู้ต้องสงสัยเป็นการปฏิบัติงานร่วมกันระหว่างเจ้าหน้าที่ทหารและตำรวจ ตามข้อมูลและหลักฐานประกอบต่างๆที่พบระหว่างการตรวจค้นและจับกุม ทำให้เชื่อว่าเป็นกลุ่มคนร้ายที่ก่อเหตุ จุดเริ่มต้นมาจากการสืบทางโทรศัพท์ และข้อมูลทางการข่าวอีกส่วนหนึ่ง ขณะที่ยังพบพยานหลักฐานสำคัญคือ ชิ้นส่วนของลูกปืนและฝักแคระเบิด รวมถึงอุปกรณ์ที่ใช้ในการประกอบระเบิดอีกหลายประเภท จะต้องตรวจสอบทางเคมีต่อไป แต่เบื้องต้นพิจารณาจากภายนอกพบว่า ชิ้นส่วนฝักแคระเบิดตรงกับระเบิดที่ท่าเรือสาทร ส่วนที่ราชประสงค์นั้นยังไม่ชัดเจนเพราะระเบิดเผาไหม้หมด อย่างไรก็ตาม ยังมีอุปกรณ์บางส่วนที่ชิ้นส่วนตรงกับเหตุระเบิดทั้งที่ราชประสงค์และท่าเรือสาทร
จัดชุดตามผู้ร่วมขบวนการแล้ว
พล.ต.ท.ประวุฒิยังกล่าวว่า จนถึงขณะนี้ผู้ต้องหายังไม่ให้การรับสารภาพ เบื้องต้นยังไม่สามารถระบุชื่อ สัญชาติที่แท้จริงของผู้ต้องหาได้ ให้การเพียงแต่ว่ามาจากต่างประเทศประเทศหนึ่ง เจ้าหน้าที่ได้จัดหาล่ามทั้งภาษาอังกฤษและล่ามที่ภาษาใกล้เคียงกับผู้ต้องหาแล้ว ยังเร็วไปที่จะระบุได้ว่าผู้ต้องหารายนี้ทำหน้าที่อะไร คาดว่ามีผู้ร่วมขบวนการอีกจำนวนมาก เจ้าหน้าที่จัดชุดเฝ้าติดตามกลุ่มนี้แล้ว คาดว่าน่าจะมีคนไทยเกี่ยวข้องด้วย ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่ได้เก็บข้อมูลดีเอ็นเอของผู้ต้องหา รวมถึงเสื้อผ้ารองเท้าเพื่อนำไปเปรียบเทียบกับรถสามล้อรับจ้างและรถแท็กซี่ในวันเกิดเหตุ ที่สำคัญคือการตรวจสอบข้อมูลทางโทรศัพท์ย้อนหลังอย่างละเอียด โดยถอดชิปเพื่อสืบหาข้อมูลการโทรศัพท์ สามารถกู้ข้อมูลการติดต่อย้อนหลังได้ แม้จะมีการลบไปแล้ว มีการส่งของกลาง เช่น วัสดุประกอบระเบิดที่ตรวจยึดได้ อยู่ระหว่างการรอผลตรวจสอบจากสำนักงานพิสูจน์หลักฐานกลาง (พฐ.) ขณะเดียวกัน ยังต้องสอบปากคำคนขับรถแท็กซี่ เนื่องจากการให้การสับสนและยังไม่ตรงกับพยานหลักฐาน ทั้งนี้ ขอเวลาเจ้าหน้าที่ทำงานอีกหน่อย เบื้องต้นสั่งการให้ตรวจสอบประเด็นอื่นๆอีกมากกว่า 10 ประเด็น รวมถึงการวิเคราะห์ข้อมูลจากพยานหลักฐานที่ได้ ส่วนจะออกหมายจับบุคคลใดเพิ่มเติมต้องรวบรวมพยานหลักฐานก่อน
ผบ.ตร.สั่ง “จักรทิพย์” เร่งขยายผล
ด้าน พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผบ.ตร.กล่าวว่า หลังจับกุมผู้ต้องหาพร้อมของกลางอุปกรณ์ประกอบระเบิด ได้สั่งการ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา รอง ผบ.ตร. ขยายผลข้อมูลเบาะแสผู้ที่เกี่ยวข้อง เพราะในการสืบสวนยังมีผู้ที่เกี่ยวข้องหลายคน มีทั้งคนไทยและชาวต่างชาติ การสืบสวนคืบหน้าแต่รายละเอียดเปิดเผยไม่ได้ มีผู้ต้องหาหลายคน ทั้งที่หลบหนีอยู่ในประเทศไทยและออกนอกประเทศไปแล้ว แต่ไม่น่าใช่มือวางระเบิดที่ออกหมายจับกุม เพราะหน้าตาไม่เหมือนกัน แต่ตรวจค้นห้องพักพบพยานหลักฐานเชื่อมโยงหลายอย่างเป็นกลุ่มเดียวกัน หลังจับกุมชายคนดังกล่าวได้ ทำให้ตัดประเด็นต่างๆทิ้งได้มาก แต่ยังไม่อยากบอกว่าเกี่ยวข้องกับสาเหตุใด แต่ไม่น่าใช่การก่อการร้ายข้ามชาติ อาจจะมาจากโกรธแค้นส่วนตัว แก้แค้นแทนพรรคพวกที่ถูกจับกุม
วอนสื่อตรวจสอบข่าวก่อนนำเสนอ
พล.ต.อ.สมยศกล่าวว่า ตรวจสอบเอกสารพยานหลักฐานพบว่าผู้ต้องหารายนี้เข้ามาอยู่ในประเทศไทยนานกว่า 1 ปี เจ้าหน้าที่ทหารควบคุมตัวผู้ต้องหาคนดังกล่าวตามมาตรา 44 หากครบกำหนดระยะเวลาจะส่งตัวให้พนักงานสอบสวน ส่วนของกลางที่ยึดได้จากห้องพักของผู้ต้องหา ขณะนี้ส่งให้กองพิสูจน์หลักฐานตรวจสอบทั้งหมดแล้ว เชื่อว่าจะขยายผลเชื่อมโยงผู้ต้องหาคนอื่น ใจเย็นๆ ขอเวลาให้ชุดสืบสวนได้ทำงาน วันนี้ทุกคนทำงานเต็มที่ แข่งกับเวลาให้ได้ตัวคนร้าย ไม่ใช่แรงกดดันจากนอกประเทศ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นคนไทยและนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ วอนสื่อต่างๆอย่านำเสนอข่าวที่ไม่มีการตรวจสอบข้อมูล จะทำให้เกิดผลกระทบบุคคล องค์กร และประเทศ ทำให้รูปคดียากขึ้น การสืบสวนสอบสวนเสียหายบิดเบือนไป ข่าวที่คลาดเคลื่อนไม่ตรวจสอบเชื่อมโยงองค์กรก่อการร้าย ที่ไม่ได้เป็นคู่กรณี ทั้งที่ไม่มีข้อมูลรองรับจะทำให้คนไทยเผชิญหน้าเป็นคู่กรณีนำภัยมาสู่ประเทศ เหมือนชักศึกเข้าบ้าน ถึงเวลาคนไทยจะต้องรักหวงแหนประเทศชาติ มาให้ความร่วมมือตำรวจเพื่อทำให้บ้านเมืองกลับสู่สภาวะปกติ
แกนนำ นปช.โพสต์เฟซบุ๊กพร้อมจ่าย 2 ล.
นายสมหวัง อัสราษี อดีตเลขานุการ รมช.พาณิชย์ และรองประธาน นปช. ออกมาโพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว หลังปรากฏข่าวการจับกุมผู้ต้องสงสัยชาวต่างชาติว่า มีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ระเบิดที่แยกราชประสงค์และท่าเรือสาทร เมื่อวันที่ 29 ส.ค.ที่ผ่านมา ระบุว่า มีความรู้สึกยินดีที่ได้รับข่าวสารจากทางเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า สามารถจับตัวผู้ร่วมขบวนการวางระเบิดที่ราชประสงค์ได้แล้ว เป็นเรื่องที่คนไทยให้ความสนใจเป็นอย่างมาก ด้วยข้อมูลและหลักฐานที่จับได้ย่อมนำไปสู่การจับตัวผู้ที่ลงมือได้ในไม่ช้านี้แน่นอน เป็นเรื่องที่น่าดีใจสำหรับคนไทย ขอให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ตำรวจและทหารทุกท่านและนำไปสู่การปิดคดีได้โดยเร็ว พร้อมทั้งยังยืนยันว่า เงินรางวัล 2 ล้านบาท ที่ร่วมกับสำนักงานตำรวจแห่งชาตินั้น พร้อมที่จะนำเงินสดไปมอบให้ด้วยตัวเองทันที
ด้านผู้ดูแลอพาร์ตเมนต์เปิดเผยว่า เหตุที่มีชาวต่างชาติเข้าพักจำนวนมากเพราะตรงข้ามกันมีสุเหร่าอัลมาดานี มีนบุรี เป็นสุเหร่ามีความสำคัญระดับโลก มักมีการประชุมกันของผู้นับถืออิสลามครั้งสำคัญๆ มีคนมาร่วมงานประมาณ 3,000 คน จึงมีชาวต่างชาติต้องการที่พักจำนวนมาก สำหรับที่แห่งนี้เปิดให้บริการมาได้ 3 ปีไม่เคยมีเหตุร้ายใดๆ และยินดีให้ความร่วมมือกับตำรวจ ส่วนผู้พักอาศัยชาวมุสลิมคนหนึ่งกล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า การที่มุสลิมต่างชาติมาอาศัยในพื้นที่แล้วออกไปก่อเหตุร้าย เป็นภาพที่ไม่ดีเลย ส่งผลให้คนมองว่ามุสลิมโหดร้าย มาทำอย่างนี้ไม่ดีเลย อยากให้เลิกการกระทำเสีย
พยานเห็นผู้ต้องสงสัยมาหาเพื่อน 2 คน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ชาวบ้านในละแวกใกล้เคียงหอพักไมมูณาพากันพูดถึงเหตุการณ์ หลังจากมีข่าวว่าเจ้าหน้าที่เข้าควบคุมตัวคนร้ายที่พูลอนันต์อพาร์ตเมนต์ว่า มีชายชาวต่างชาติ ผิวขาว สวมกางเกงขาสามส่วน เสื้อยืด ผมรองทรง ใช้ผ้าเช็ดหน้าปิดบังใบหน้า สะพายเป้สีดำขนาดใหญ่ ปั่นจักรยานออกมาจากหอพักไมมูณาไปตามถนนราษฎร์อุทิศมุ่งหน้าหนองจอกแล้วไม่กลับมาอีกเลย 1 ในชาวบ้านเปิดเผยว่า เคยเห็นชายคนดังกล่าวปั่นจักรยานเข้าออกหอพักบ่อยครั้ง แต่ไม่มีใครรู้จัก ด้านแม่ค้าขายผ้าหน้าปากซอยราษฎร์อุทิศ 25/8 เปิดเผยว่า ตนเคยเห็นชายชาวต่างชาติที่ถูกจับกุมไปเมื่อวานเดินทางมาพบเพื่อนชาวต่างชาติที่พักอยู่หอไมมูณาบ่อยๆ แต่ลักษณะของชายคนดังกล่าวไว้ผมหยิกยาว หนวดเครารุงรัง ส่วนชายชาวต่างชาติ 2 คนที่มาพบผิวขาวหน้าตาดีทั้งคู่ พูดกับคนไทยด้วยภาษาอังกฤษ แต่พูดกันเองด้วยภาษาที่ฟังแล้วไม่เข้าใจ ภายหลังจากมีการจับกุมตรวจค้นที่หนองจอกก็ไม่พบชาวต่างชาติทั้ง 2 คนอีกเลย
รวบครอบครัวปาเลสไตน์พร้อมปุ๋ยยูเรีย
มีรายงานว่า ในการตรวจค้นห้องพักอีกแห่งย่านหนองจอกเมื่อช่วงดึกวันที่ 29 ส.ค. ที่มีข้อมูลเชื่อมโยงกับนายบิลา มูฮัมหมัด ผลตรวจค้นห้องพักอีกแห่งใกล้ๆกัน พบครอบครัวชาวปาเลสไตน์ 4 คน เจ้าหน้าที่ถึงผงะเมื่อเจอดินระเบิดร้ายแรงจำนวนมากซุกซ่อนอยู่ภายในห้องพัก พร้อมอุปกรณ์ระเบิด แบตเตอรี่ ซิมโทรศัพท์มือถือ และปุ๋ยยูเรีย ส่วนผสมดินระเบิด 3 กิโลกรัม เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวทั้งหมดไปสอบสวน สืบสวนข้อมูลพบมีความเชื่อมโยงการติดต่อเช่าพักห้องที่เกิดเหตุ น่าเชื่อเป็นจุดประกอบระเบิดโดยแยกชิ้นส่วนอุปกรณ์ระเบิดและปุ๋ยยูเรีย เพื่อป้องกันการเข้าตรวจค้นของเจ้าหน้าที่ หลังพบของกลางควบคุมตัวทั้ง 4 คนพร้อมของกลางไปสอบสวนที่ พัน ร.มทบ.11
ค้นหลายจุดทั้งกรุงเทพฯ-ปริมณฑล
มีรายงานว่า ชุดสืบสวนนครบาลและกองปราบปรามได้กระจายกำลังเข้าตรวจค้นเป้าหมายที่พักหลายแห่งที่มีข้อมูลเชื่อมโยงการเข้าตรวจค้นจับกุมนายบิลา มูฮัมหมัด อายุ 47 ปี ผู้ต้องหาชาวตุรกี เนื่องจากมีข้อมูลเชื่อมโยงการตระเตรียมวางแผนเพื่อก่อเหตุระเบิดที่แยกราชประสงค์ โดยมีกลุ่มชาวต่างชาติ 11 เป้าหมายในพื้นที่กรุงเทพฯและปริมณฑล เพื่อขยายผลหาผู้ที่เกี่ยวข้องและมือระเบิดที่ขออนุมัติหมายจับกุมไปแล้ว
กองปราบฯเร่งขยายผลผู้เกี่ยวข้อง
ที่กองปราบปราม เมื่อเวลา 14.00 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.ต.ต.อัคราเดช พิมลศรี ผู้บังคับการกองปราบปราม (ผบก.ป.) พ.ต.อ.ประเสริฐ พัฒนาดี รอง ผบก.ป. พ.ต.อ.เอกรักษ์ ลิ้มสังกาศ รอง ผบก.จร. พ.อ.วิจารณ์ จดแตง หัวหน้าฝ่ายกฎหมาย หน่วยเฉพาะกิจปฏิบัติการ คสช. พร้อมด้วยชุดสืบสวนคลี่คลายคดีระเบิดส่วนของกองปราบปราม ร่วมประชุมสรุปผลการปฏิบัติการหลังจับกุมผู้ต้องหาคดีระเบิดพร้อมวางแนวทางการสืบสวน ทั้งนี้มีรายงานว่า ที่ประชุมได้มีการแบ่งงานให้แต่ละกองกำกับการทำหน้าที่สืบสวนร่วมกับตำรวจนครบาลออกหาข่าวจากกล้องวงจรปิดเพิ่มเติมในบริเวณอพาร์ตเมนต์ของผู้ต้องหา เพื่อขยายผลในกรณีที่อาจจะยังมีผู้ร่วมขบวนการหลงเหลืออยู่
ประสานตุรกีตรวจพาสปอร์ตปลอม
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ชุดสืบสวนกองปราบฯกำลังเร่งตรวจสอบซิมการ์ดโทรศัพท์มือถือที่ยึดได้จากที่เกิดเหตุเพื่อขยายผลถึงบุคคลอื่นๆที่อาจจะเกี่ยวข้องกับขบวนการ รวมทั้งเร่งตรวจสอบหนังสือเดินทางโดยให้ร่วมกับสถานทูตตุรกีเพื่อหาแหล่งที่มาที่ไปและข้อมูลหมายเลขในหนังสือเดินทางด้วย อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดของอาคารที่พักของผู้ต้องหาช่วงเวลาเกิดเหตุยังไม่พบมีผู้ต้องสงสัยรายอื่นปรากฏ ทั้งนี้กองปราบฯได้ประสานงานกับ สน.มีนบุรี เพื่อให้ติดตามตัวผู้เปิดห้องเช่าเลขที่ 9106 อาคารไมมูณา การ์เด้นโฮม ซอยบุญยะบา แขวงแสนแสบ เขตมีนบุรี มาสอบสวน เนื่องจากเจ้าของหอพักดังกล่าวได้ให้การกับตำรวจว่ามีหญิงไทยคนหนึ่งใช้ชื่อว่า “ไมซาเลาะ” อายุประมาณ 30-35 ปีเป็นคนมาเปิดห้องเช่าไว้
ตามล่าสาวไทยผู้เช่าห้องที่พบปุ๋ยยูเรีย
สำหรับห้องพักที่อาคารไมมูณา การ์เด้นโฮม แห่งนี้ตำรวจเข้าค้นเมื่อคืนที่ผ่านมาหลังจากผู้ต้องหาระบุว่าเป็นจุดซุกซ่อนวัตถุระเบิด ผลตรวจค้นพบปุ๋ยยูเรีย ตราเรือไวกิ้ง สูตร 40-0-0 ผงสีขาว ดินเทา 2 ขวด กระป๋องขนาด 12×7 เซนติเมตร 6 กระป๋อง สายไฟสีดำ หลอดไฟฟ้าประดับต้นไม้ สายไฟสีน้ำเงิน นาฬิกาข้อมือ 4 เรือน นาฬิกาตั้งโต๊ะ 1 เรือน นอต 1 ห่อ กล่องวิทยุสื่อสาร กล่องเปล่าพลาสติก รถบังคับ และกระเป๋าเป้ใส่หนังสือ เจ้าหน้าที่ยึดอุปกรณ์ทั้งหมดไปตรวจสอบ ทั้งนี้ ระหว่างการตรวจค้นยังไม่พบนางไมซาเลาะ เจ้าของห้อง ซึ่งขณะนี้ตำรวจกำลังติดตามตัวอย่างเร่งด่วนเพราะเป็นที่แน่นอนว่า นางไมซาเลาะน่าจะมีส่วนเกี่ยวพันกับขบวนการวางระเบิดครั้งนี้
สงสัยเกี่ยวพันแก๊งปลอมพาสปอร์ต
ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.ท.ประวุฒิ ถาวรศิริ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า เจ้าหน้าที่จะเดินหน้าสอบสวนชายชาวต่างชาติที่ถูกจับกุมได้เมื่อวันที่ 29 ส.ค. กรณีต้องสงสัยว่า เชื่อมโยงกับเหตุการณ์ลอบวางระเบิดบริเวณแยกราชประสงค์และท่าเรือสาทร เบื้องต้นคาดว่า สาเหตุไม่ใช่เรื่องเกี่ยวกับการก่อการร้าย แต่เป็นเรื่องความเจ็บแค้นส่วนตัว อาจจะเกิดจากการที่เจ้าหน้าที่เคยทลายแก๊งปลอมพาสปอร์ตก่อนหน้านี้ อาจเป็นกลุ่มที่อาจจะใกล้เคียงกับกลุ่มที่เราเคยควบคุมตัวไว้ และอาจเกิดความไม่พอใจที่เราดำเนินการกับพวกเขา ญาติพี่น้องเขา ดังนั้น ต้องใช้ความระมัดระวังในการสืบสวน เพื่อไม่ให้สาเหตุการโกรธเคืองขยายผลไป หลักฐานทั้งหมดต้องพิสูจน์ให้ได้ว่า เขาเป็นคนทำแน่นอน เห็นพาสปอร์ตปลอมเป็นตั้งประมาณ 200 เล่มมั้ย เป็นกระบวนการในการนำคนมาแล้วแปลงสัญชาติส่งไปยังประเทศที่สาม เดิมเป็นกระบวนการนี้อยู่ แต่เราไปทลายกระบวนการนี้ก็น่าจะมีความโกรธแค้นทำให้เกิดเรื่องพวกนี้ขึ้นได้
หลักฐานชัดโยงระเบิดท่าเรือสาทร
พล.ต.ท.ประวุฒิกล่าวต่อว่า ขณะนี้ยังไม่สามารถสรุปได้ว่าเป็นคนเดียวกันกับผู้ที่วางระเบิด หรือเป็นหนึ่งในกระบวนการเท่านั้น จะเห็นว่ายังมีความเป็นไปได้ทั้ง 2 ด้าน โดยจะสอบสวนข้อมูลการใช้โทรศัพท์ในวันเกิดเหตุ เพื่อเชื่อมโยงถึงบทบาทของผู้ต้องสงสัยดังกล่าว รวมถึงการสืบสวนอีกหลายจุดเพิ่มเติม และทำการพิสูจน์สัญชาติของชายต่างชาติคนดังกล่าว สำหรับการจับกุมผู้ต้องสงสัยเป็นการปฏิบัติงานร่วมกันระหว่างเจ้าหน้าที่ทหารและตำรวจ ตามข้อมูลและหลักฐานประกอบต่างๆที่พบระหว่างการตรวจค้นและจับกุม ทำให้เชื่อว่าเป็นกลุ่มคนร้ายที่ก่อเหตุ จุดเริ่มต้นมาจากการสืบทางโทรศัพท์ และข้อมูลทางการข่าวอีกส่วนหนึ่ง ขณะที่ยังพบพยานหลักฐานสำคัญคือ ชิ้นส่วนของลูกปืนและฝักแคระเบิด รวมถึงอุปกรณ์ที่ใช้ในการประกอบระเบิดอีกหลายประเภท จะต้องตรวจสอบทางเคมีต่อไป แต่เบื้องต้นพิจารณาจากภายนอกพบว่า ชิ้นส่วนฝักแคระเบิดตรงกับระเบิดที่ท่าเรือสาทร ส่วนที่ราชประสงค์นั้นยังไม่ชัดเจนเพราะระเบิดเผาไหม้หมด อย่างไรก็ตาม ยังมีอุปกรณ์บางส่วนที่ชิ้นส่วนตรงกับเหตุระเบิดทั้งที่ราชประสงค์และท่าเรือสาทร
จัดชุดตามผู้ร่วมขบวนการแล้ว
พล.ต.ท.ประวุฒิยังกล่าวว่า จนถึงขณะนี้ผู้ต้องหายังไม่ให้การรับสารภาพ เบื้องต้นยังไม่สามารถระบุชื่อ สัญชาติที่แท้จริงของผู้ต้องหาได้ ให้การเพียงแต่ว่ามาจากต่างประเทศประเทศหนึ่ง เจ้าหน้าที่ได้จัดหาล่ามทั้งภาษาอังกฤษและล่ามที่ภาษาใกล้เคียงกับผู้ต้องหาแล้ว ยังเร็วไปที่จะระบุได้ว่าผู้ต้องหารายนี้ทำหน้าที่อะไร คาดว่ามีผู้ร่วมขบวนการอีกจำนวนมาก เจ้าหน้าที่จัดชุดเฝ้าติดตามกลุ่มนี้แล้ว คาดว่าน่าจะมีคนไทยเกี่ยวข้องด้วย ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่ได้เก็บข้อมูลดีเอ็นเอของผู้ต้องหา รวมถึงเสื้อผ้ารองเท้าเพื่อนำไปเปรียบเทียบกับรถสามล้อรับจ้างและรถแท็กซี่ในวันเกิดเหตุ ที่สำคัญคือการตรวจสอบข้อมูลทางโทรศัพท์ย้อนหลังอย่างละเอียด โดยถอดชิปเพื่อสืบหาข้อมูลการโทรศัพท์ สามารถกู้ข้อมูลการติดต่อย้อนหลังได้ แม้จะมีการลบไปแล้ว มีการส่งของกลาง เช่น วัสดุประกอบระเบิดที่ตรวจยึดได้ อยู่ระหว่างการรอผลตรวจสอบจากสำนักงานพิสูจน์หลักฐานกลาง (พฐ.) ขณะเดียวกัน ยังต้องสอบปากคำคนขับรถแท็กซี่ เนื่องจากการให้การสับสนและยังไม่ตรงกับพยานหลักฐาน ทั้งนี้ ขอเวลาเจ้าหน้าที่ทำงานอีกหน่อย เบื้องต้นสั่งการให้ตรวจสอบประเด็นอื่นๆอีกมากกว่า 10 ประเด็น รวมถึงการวิเคราะห์ข้อมูลจากพยานหลักฐานที่ได้ ส่วนจะออกหมายจับบุคคลใดเพิ่มเติมต้องรวบรวมพยานหลักฐานก่อน
ผบ.ตร.สั่ง “จักรทิพย์” เร่งขยายผล
ด้าน พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผบ.ตร.กล่าวว่า หลังจับกุมผู้ต้องหาพร้อมของกลางอุปกรณ์ประกอบระเบิด ได้สั่งการ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา รอง ผบ.ตร. ขยายผลข้อมูลเบาะแสผู้ที่เกี่ยวข้อง เพราะในการสืบสวนยังมีผู้ที่เกี่ยวข้องหลายคน มีทั้งคนไทยและชาวต่างชาติ การสืบสวนคืบหน้าแต่รายละเอียดเปิดเผยไม่ได้ มีผู้ต้องหาหลายคน ทั้งที่หลบหนีอยู่ในประเทศไทยและออกนอกประเทศไปแล้ว แต่ไม่น่าใช่มือวางระเบิดที่ออกหมายจับกุม เพราะหน้าตาไม่เหมือนกัน แต่ตรวจค้นห้องพักพบพยานหลักฐานเชื่อมโยงหลายอย่างเป็นกลุ่มเดียวกัน หลังจับกุมชายคนดังกล่าวได้ ทำให้ตัดประเด็นต่างๆทิ้งได้มาก แต่ยังไม่อยากบอกว่าเกี่ยวข้องกับสาเหตุใด แต่ไม่น่าใช่การก่อการร้ายข้ามชาติ อาจจะมาจากโกรธแค้นส่วนตัว แก้แค้นแทนพรรคพวกที่ถูกจับกุม
วอนสื่อตรวจสอบข่าวก่อนนำเสนอ
พล.ต.อ.สมยศกล่าวว่า ตรวจสอบเอกสารพยานหลักฐานพบว่าผู้ต้องหารายนี้เข้ามาอยู่ในประเทศไทยนานกว่า 1 ปี เจ้าหน้าที่ทหารควบคุมตัวผู้ต้องหาคนดังกล่าวตามมาตรา 44 หากครบกำหนดระยะเวลาจะส่งตัวให้พนักงานสอบสวน ส่วนของกลางที่ยึดได้จากห้องพักของผู้ต้องหา ขณะนี้ส่งให้กองพิสูจน์หลักฐานตรวจสอบทั้งหมดแล้ว เชื่อว่าจะขยายผลเชื่อมโยงผู้ต้องหาคนอื่น ใจเย็นๆ ขอเวลาให้ชุดสืบสวนได้ทำงาน วันนี้ทุกคนทำงานเต็มที่ แข่งกับเวลาให้ได้ตัวคนร้าย ไม่ใช่แรงกดดันจากนอกประเทศ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นคนไทยและนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ วอนสื่อต่างๆอย่านำเสนอข่าวที่ไม่มีการตรวจสอบข้อมูล จะทำให้เกิดผลกระทบบุคคล องค์กร และประเทศ ทำให้รูปคดียากขึ้น การสืบสวนสอบสวนเสียหายบิดเบือนไป ข่าวที่คลาดเคลื่อนไม่ตรวจสอบเชื่อมโยงองค์กรก่อการร้าย ที่ไม่ได้เป็นคู่กรณี ทั้งที่ไม่มีข้อมูลรองรับจะทำให้คนไทยเผชิญหน้าเป็นคู่กรณีนำภัยมาสู่ประเทศ เหมือนชักศึกเข้าบ้าน ถึงเวลาคนไทยจะต้องรักหวงแหนประเทศชาติ มาให้ความร่วมมือตำรวจเพื่อทำให้บ้านเมืองกลับสู่สภาวะปกติ
แกนนำ นปช.โพสต์เฟซบุ๊กพร้อมจ่าย 2 ล.
นายสมหวัง อัสราษี อดีตเลขานุการ รมช.พาณิชย์ และรองประธาน นปช. ออกมาโพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว หลังปรากฏข่าวการจับกุมผู้ต้องสงสัยชาวต่างชาติว่า มีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ระเบิดที่แยกราชประสงค์และท่าเรือสาทร เมื่อวันที่ 29 ส.ค.ที่ผ่านมา ระบุว่า มีความรู้สึกยินดีที่ได้รับข่าวสารจากทางเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า สามารถจับตัวผู้ร่วมขบวนการวางระเบิดที่ราชประสงค์ได้แล้ว เป็นเรื่องที่คนไทยให้ความสนใจเป็นอย่างมาก ด้วยข้อมูลและหลักฐานที่จับได้ย่อมนำไปสู่การจับตัวผู้ที่ลงมือได้ในไม่ช้านี้แน่นอน เป็นเรื่องที่น่าดีใจสำหรับคนไทย ขอให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ตำรวจและทหารทุกท่านและนำไปสู่การปิดคดีได้โดยเร็ว พร้อมทั้งยังยืนยันว่า เงินรางวัล 2 ล้านบาท ที่ร่วมกับสำนักงานตำรวจแห่งชาตินั้น พร้อมที่จะนำเงินสดไปมอบให้ด้วยตัวเองทันที
PR
この記事にコメントする
- ABOUT
ブログ2
- カテゴリー
- ブログ内検索