ไม่รู้จะอธิบายยังไง คือบ้านก็สวยนะ แต่คนที่นี่แบบ ไม่มีชีวิตชีวาอย่างไงก็ไม่รู้ อาจจะอยู่ได้ไม่นาน
เจ้านกกระจอก Mundane History - Anocha Suwichakornpong
เจ้านกกระจอก Mundane History - Anocha Suwichakornpong
PR
Ocimum basilicum - Basil หรือ Thai Basil - โหระพา
Ocimum tenuiflorum - Holy Basil หรือ Sacred Basil - กะเพรา
Ocimum x citriodorum - Sweet Basil - แมงลัก
Ocimum gratissimum - Tree Basil - ยี่หร่า
Ocimum tenuiflorum - Holy Basil หรือ Sacred Basil - กะเพรา
Ocimum x citriodorum - Sweet Basil - แมงลัก
Ocimum gratissimum - Tree Basil - ยี่หร่า
ยอกย้อน
พูดย้อนอย่างทิ่มตำ, ย้อนยอก ก็ว่า.
ย้อนให้เจ็บอกเจ็บใจ เช่น พูดจายอกย้อน ย้อนยอก ก็ว่า.
พูดย้อนอย่างทิ่มตำ, ย้อนยอก ก็ว่า.
ย้อนให้เจ็บอกเจ็บใจ เช่น พูดจายอกย้อน ย้อนยอก ก็ว่า.
ป้อน
ก. เอาอาหารส่งให้ถึงปากหรือใส่ปากให้กิน, โดยปริยายหมายถึง
กิริยาอาการที่คล้ายคลึงเช่นนั้น เช่น เอาเงินป้อน; ส่งวัตถุดิบแก่
โรงงานเพื่อให้เครื่องจักรผลิตเป็นสิ่งสําเร็จรูปหรือทําให้เครื่องจักร
เกิดพลังงาน.
ก. เอาอาหารส่งให้ถึงปากหรือใส่ปากให้กิน, โดยปริยายหมายถึง
กิริยาอาการที่คล้ายคลึงเช่นนั้น เช่น เอาเงินป้อน; ส่งวัตถุดิบแก่
โรงงานเพื่อให้เครื่องจักรผลิตเป็นสิ่งสําเร็จรูปหรือทําให้เครื่องจักร
เกิดพลังงาน.
สำหรับเมืองไทย การชูนิ้วโป้งให้ มักหมายถึงว่า "โป้งแระ โกรธแล้วนะ" แบบเด็ก ๆ (ไม่โกรธจริงหรอก 5 5 5)
ประมาณว่า งอน แล้วนะ แต่ไม่จริงจังเท่าไรหรอกคะ
อ๋อ! ได้ยินบ่อยๆตอนเด็กๆค่ะ หมายความว่าไม่เล่นด้วยแล้ว, งอน, เลิกคบด้วยค่ะ
ประมาณว่า งอน แล้วนะ แต่ไม่จริงจังเท่าไรหรอกคะ
อ๋อ! ได้ยินบ่อยๆตอนเด็กๆค่ะ หมายความว่าไม่เล่นด้วยแล้ว, งอน, เลิกคบด้วยค่ะ
นางตานี เป็นผีผู้หญิง เช่นเดียวกับนางตะเคียน นางตานีจะสิงสถิตย์อยู่ในต้นกล้วยตานี อย่างไรก็ตาม ไม่ใช่ต้นกล้วยตานีทุกต้นจะมีพรายตานีสิงสถิตย์อยู่ ลักษณะของพรายตานีโดยทั่วไปจะเป็นหญิงงาม นุ่งห่มตามแบบสตรีไทยโบราณ สไบสีตองอ่อน ผ้านุ่งโจงสีตองแก่ กลิ่นกายหอมดอกกล้วย
เรื่องการเรียกพรายตานีนี้มีหลายตำนาน บ้างก็ว่าให้ชายที่ต้องการเรียกพรายนาตีมาปัสสาวะรดโคนต้นกล้วยที่กำลังออกปลีใหม่ ๆ บ้างก็ว่าให้เอาของลับถูกับโคนต้นกล้วย
wiki นางตานี
เรื่องการเรียกพรายตานีนี้มีหลายตำนาน บ้างก็ว่าให้ชายที่ต้องการเรียกพรายนาตีมาปัสสาวะรดโคนต้นกล้วยที่กำลังออกปลีใหม่ ๆ บ้างก็ว่าให้เอาของลับถูกับโคนต้นกล้วย
wiki นางตานี
เคยมั้ย? เมื่อคุณคิดถึงใครบางคน คุณรู้สึกทรมาน
เพราะคุณคิดไปว่า เขาคนนั้น อาจจะไม่ได้คิดถึงคุณอยู่
ถึงแม้ว่าการได้คิดถึงใครซักคนนั้น จะเป็นทุกข์บ้าง
แต่ก็ชุ่มชื่นหัวใจ.........
ไม่ทำให้คุณต้องมานั่งคิดกระวนกระวาย ว่า.....
คุณมีความหมายสำหรับเขาบ้างหรือเปล่านะ
เขาจะแคร์คุณบ้างไหมนะ
คุณจะรีบรับโทรศัพท์ทันที เพราะคิดว่า
อาจเป็นเขาคนนั้น
คุณมองออกไปนอกหน้าต่าง เพราะคิดว่า
เขาอาจจะปรากฎตัวอยู่ที่นั่น
คุณนั่งอยู่หน้าทีวี แต่จิตใจกลับคิดถึงเขาคนนั้น
จนทำให้พลาดตอนอวสานของละครเรื่องโปรด
คุณเอนกายลงบนเตียง
ก็พลันคิดถึงช่วงเวลาที่ไปไหนต่อไหนด้วยกัน
คุณคิดถึงแต่ว่า เราคงจะได้มานั่งมองดาวด้วยกันอีก
คุยกันทุกเรื่อง
ไม่ว่าจะเป็นความฝัน หรืออนาคต
คุณออนไลน์อินเตอร์เน็ท
เพื่อหวังจะได้พบเขา
และก็เริ่มวิตกกังวลว่าเขาจะเป็นอะไรไปหรือเปล่า
เมื่อเขาไม่ได้ออนไลน์
หรือตอบกลับมา
การได้คิดถึงใครบางคน
เป็นหนทางหนึ่งที่ช่วยให้คุณเติบโต
และได้สัมผัสกับความเปลี่ยวเหงา
มันสอนให้คุณเรียนรู้ที่จะอยู่ร่วมกับความอ้างว้าง
และทำให้คุณรู้จักอีกความรู้สึกหนึ่ง นั่นคือ
ความว่างเปล่า
บางครั้ง มันก็รู้สึกดีนะ
ที่ได้คิดถึงใครซักคน
เพราะมันทำให้คุณรู้ว่า
คุณใส่ใจใครคนนั้น
และคุณปล่อยใจที่จะสัมผัสความรู้สึกรักและใส่ใจที่มีเขา
แต่ในขณะเดียวกัน การที่คิดถึงใครคนนั้น
โดยที่เราไม่รู้ว่า
เขารู้สึกเหมือนเราหรือเปล่า
ช่างเป็นความรู้สึกที่ทรมานเหลือเกิน
และคุณกลับรู้สึกว่า คุณถูกทิ้งไว้เพียงลำพัง
ดังนั้น หากคุณคิดถึงใคร
จงบอกให้เขาได้รับรู้บ้าง
และเช่นเดียวกัน
ถามเขาซิว่า
เขารู้สึกอย่างเดียวกันหรือเปล่า
อย่าปล่อยให้ความรู้สึกคิดถึง
เปลี่ยนแปรเป็นความอิจฉา
หรือความหวาดระแวง
หากใครคิดถึงคุณ และคุณรับรู้
จงบอกเขาเถิด
ว่าคุณรับทราบแล้ว
หากคุณคิดถึงเขาตอบ ก็จงบอกเราเช่นกัน
อย่าให้เขา....รอ....เลยนะ
PS. ฉันคิดถึงคุณ...ถ้าคุณคิดถึงฉันก็บอกกันบ้างนะ ^ __ ^
http://www.dreampoem.com/forum/index.php?topic=8093.0;wap2
1. แอ๊บแบ๊ว แปลได้ว่าไร้เดียงสา น่ารัก เกินเหตุ ผมเคยให้คำแปลเป็นภาษาอังกฤษว่าเป็น hyperinnocent คำว่า hyper หมายถึง มากเกินไป แต่อีกแง่มุมหนึ่งอาจจะหมายถึง เส้แสร้งทำเป็นไม่รู้เรื่องอะไร ภาษาอังกฤษน่าจะเป็น pretend to be innocent หรือ naive ก็ได้นะครับ คำว่า naive หมายถึงไร้เดียงสา แต่ถ้าแอ๊บแบ๊วเป็นกริยาท่าทางหรือทำท่าทางและนิสัยเหมือนเด็ก นั่นคือ to act childishly
2.โคตร ๆ แปลได้ว่า "มาก" ภาษาอังกฤษก็คือ very หรือถ้าจะให้ดูเข้มข้นกว่านั้นน่าจะเป็น extremely หรือสุดยอด อันนี้ก็เหมือนกับคำว่า "เขี้ยว" ที่แปลว่ายาก คือ difficult หรือเจนจัด คือ sophisticated ก็ได้
3.ติงต๊อง คำแสลงโบราณ ไม่น่าจะหมายถึงโง่หรือปัญญาอ่อน เพราะบริบทของคำค่อนข้างจะน่ารัก ไม่รุนแรงเท่าไรนัก ภาษาอังกฤษน่าจะเป็น weird หรือ nut แปลว่าเพี้ยน ๆ
4.ติดเรท อันนี้เป็นคำแสลงที่ใช้ในกระทู้ของห้องสวนลุม พันธ์ทิพย์น่าจะเลียนแบบมาจากภาษาของหนังคือ x-rated แปลเป็นภาษาอังกฤษแบบตรงกว่านั้นคือ about sex หรือ sex-related topic
5.xxx เป็นตัวอักษรโรมันที่แปลว่า"โป๊" หรือ "เกี่ยวกับเรื่องเพศ"เป็นคำคุณศัพท์ และคนไทยเอาไปใช้ในกระทู้พันธ์ทิพย์เป็นคำกิริยาคือ to have sex หรือ have intercourse with เหมือนกับคำว่า "อึ้บ"
6. ขำๆ แปลว่า ตลก เฮฮา ไม่จริงจัง ภาษาอังกฤษน่าจะเป็น just for fun หรือ casual (คำคุณศัพท์)
7สับ แปลว่าโจมตี ว่ากล่าวในเรื่องไม่ดี ภาษาอังกฤษน่าจะเป็น criticize หรือ attack หรือ scold ที่แปลว่าด่า
8.เผางาน แปลว่า ทำงานแบบลวก ๆ เพื่อให้มันเสร็จไป น่าจะเป็น to finish the urgent work roughly /carelessly
9.แอ๊บแมน เป็นคำแสลงของกระเทย แปลว่าคนที่เป็นเกย์แต่พรางตัวเอง ภาษาอังกฤษคือ closeted
10.ควาย เป็นคำด่า ซึ่งผมไม่รู้เหมือนกันว่าคนไทยนิยมใช้ตั้งแต่เมื่อไรแต่น่าจะเป็นคำแสลง เช่น "ควาย" สำหรับฝรั่งจะใช้คำว่า Idiot , stupid และ numbskull (กระโหลกชา) และคนไทยยังใช้ว่า "มุขควายๆ " หรือมุขตลกแบบโง่ๆ ดังนั้นจึงน่าจะป็น the silly gag (gag แปลว่ามุข)
11.แฮ๊บ แปลว่าแอบขโมยของเล็กๆ น้อยๆ เช่นนั่งกินข้าวในโรงแรมก็แอบเอาซ้อมหรือช้อมใส่กระเป๋าเป็นคำน่ารักที่ใช้เพื่อให้พฤติกรรมดูดีกว่าเดิมสักหน่อย ภาษาอังกฤษเขาใช้คำว่า steal ทั้งนั้นแต่ถ้าเป็นขโมยของในห้างสรรพสินค้าเค้าใช้คำว่า shoplifting
12.เด็กแวนท์ /เด็กแว้นต์/เด็กแว้นซ์ ใช้กับพวกที่ชอบขี่มอเตอร์ไซด์รวมกลุ่มกันเพื่อแข่งบนถนนตอนดึกๆ ใครชนะก็เอาเด็กสาวที่นั่งซ้อนท้ายของอีกฝ่ายมาร่วมหลับนอนด้วย คำว่า แวนท์ (หรืออะไรสักอย่างนี่แหละ) เป็นเสียงบิดของมอเตอร์ไซด์ แต่ตอนนี้เค้าก็นิยมใช้กับวัยรุ่นกลุ่มอื่นด้วย ดังนั้นภาษาอังกฤษน่าจะเป็น reckless youth หรือพวกเด็กวัยรุ่นบ้าระห่ำไม่คิดถึงอนาคตของตัวเอง มาดูอีกทีก็น่าจะเหมือนกับคำว่า เด็กเกรียน คือเด็กกวนเท้า หรือ troublesome /annoying kid คือเด็กที่ชอบสร้างปัญหาหรือกวน ๆ
13.ชิลล์ ๆ สันนิฐานว่าคำนี้น่ามาจากคำว่า chill out แปลว่าสบาย ๆ ทำให้ผ่อนคลาย แต่คนไทยชอบบอกว่า "มันเป็นเรื่องชิลล์ ๆ " ความหมายน่าจะเป็น "It is a piece of cake"แปลว่า "เรื่องหมู ๆ"หรือ trifle ซึ่งแปลว่า "เรื่องขี้ประติ๋ว" นอกจากนี้ยังเจอในโฆษณา(แหกตาประชาชน)เช่นคำว่า ราคาชิลล์ ๆ ก็คือ cheap price
14.เอ๋อ คือ กริยาที่แปลว่า นิ่ง งงงัน สับสน ภาษาอังกฤษที่ตรงที่สุดน่าจะเป็น dumbfounded หรือ dumbfolded เป็นคำคุณศัพท์ นอกยังสามารถใช้คำว่า confused แปลว่าสับสน งงงวย หรือ surprise คือตกตะลึงด้วยก็ได้
15.ตีส คำนี้ย่อมาจากคำว่า artist แปลว่าศิลปิน ใช้กับคำว่า "อารมณ์"หรือ"อุปนิสัย"ก็ได้ อารมณ์ติสก็คืออารมณ์อ่อนไหวง่าย ชอบเปลี่ยนไปเปลี่ยนมา ไม่ค่อยมีความสม่ำเสมอในการทำงานคือถ้ามีอารมณ์ก็ลุยงานแบบไม่หลับไม่นอน แต่ถ้าไม่มีอารมณ์ก็นอนกระดิกเท้าเฉย นั่นคือ sensitive and temperamental ในหลายครั้งเราอาจจะรวมไปถึงนิสัยที่ชอบพูดถึงเรื่องซับซ้อนเช่น ศิลปะ ปรัชญา หรือเรื่องโรแมนติก สายลม แสงแดด ความสวยงามของบทกวี บุคคลที่มีนิสัยเช่นนี้เราจะเรียกว่า bohemian style
16.เด็กซิ่ว และเด็กเปอร์ คำว่าซิ่วกร่อนมาจาก fossil หรือซากสัตว์โบราณใช้กับนักศึกษาที่เคยเรียนมหาวิทยาลัยอื่นแล้วมาสอบใหม่ นั่นคือ The student who used to study in other university/faculty. และคำว่าเปอร์กร่อนมาจากว่า super หมายถึงนักศึกษาที่ใช้เวลาเรียนมากกว่าที่มหาวิทยาลัยกำหนด นั่นคือ The student who has studied in more than required time.
17.เด็กแนว ขอแปลจากวิกกีพิเดียไทยเลยก็แล้วกันนะครับว่า"เป็นลักษณะของกลุ่มสังคมวัยรุ่นในวัฒนธรรมสมัยนิยม โดยกล่าวว่า เด็กสมัยใหม่ที่ไม่ตามแฟชั่น ไม่ตามใคร มีหัวคิดเป็นของตัวเอง ลักษณะการแต่งตัวแปลกใหม่เป็นจุดเด่น " และผมก็ขอไม่ลงทุนโดยการยกมาจาก wikipedia ภาษาอังกฤษอีกทีคือ hipster (ซึ่งเป็นที่มาของคำแสลงที่ไม่ค่อยนิยมคือเด็กฮิป) ก็คือ an individual who avoids and often explicitly rejects whatever is seen as mainstream or corporate in nature, instead embracing alternative forms of expression.
18.จีบ คำนี้ไม่ได้หมายถึงการเกี้ยวพาราสีของหนุ่มสาวเพียงอย่างเดียวหากปัจจุบันยังหมายถึงการขอร้องหรือเกลี่ยกล่อมให้ใครบางคนมาร่วมงานด้วยคำนี้น่าจะเป็น persuade หรือ urge
19.แป๊ก คำแสลงโบราณที่ผมได้ยินมาตั้งแต่เด็ก มักจะใช้กับเรื่องของราชการเช่น เงินเดือนแป๊ก คือเงินเดือนไม่ขึ้น ภาษาอังกฤษคือ His salary is not raised anymore.หรือ ข้าราชการคนนั้นถูกแป๊กให้ไปอยู่ที่อื่น นั่นคือ He is transferred to the place which is inferior to the former. นั่นคือเขาถูกย้ายให้ไปอยู่ที่อื่นซึ่งด้อยกว่าที่เก่า
20. เบนโล มาจากเหตุการณ์ของนางเอกสาวที่ท้องแล้วโกหกว่าตัวเองไม่ท้องโดยบอกว่าที่อวบอัดเพราะกินเบนโล สื่อมวลชนโดยเฉพาะสายบันเทิงจึงใช้คำนี้กับดาราสาวที่ดูน่าสงสัยว่าจะท้องเพราะเปล่งปลั่งเป็นพิเศษแต่ทำเป็นเฉย ภาษาอังกฤษที่น่าจะแปลได้อย่างครอบคลุมคือ
http://mcpswis.mcp.ac.th/html_edu/cgi-bin/mcp/main_php/print_informed.php?id_count_inform=13594
2.โคตร ๆ แปลได้ว่า "มาก" ภาษาอังกฤษก็คือ very หรือถ้าจะให้ดูเข้มข้นกว่านั้นน่าจะเป็น extremely หรือสุดยอด อันนี้ก็เหมือนกับคำว่า "เขี้ยว" ที่แปลว่ายาก คือ difficult หรือเจนจัด คือ sophisticated ก็ได้
3.ติงต๊อง คำแสลงโบราณ ไม่น่าจะหมายถึงโง่หรือปัญญาอ่อน เพราะบริบทของคำค่อนข้างจะน่ารัก ไม่รุนแรงเท่าไรนัก ภาษาอังกฤษน่าจะเป็น weird หรือ nut แปลว่าเพี้ยน ๆ
4.ติดเรท อันนี้เป็นคำแสลงที่ใช้ในกระทู้ของห้องสวนลุม พันธ์ทิพย์น่าจะเลียนแบบมาจากภาษาของหนังคือ x-rated แปลเป็นภาษาอังกฤษแบบตรงกว่านั้นคือ about sex หรือ sex-related topic
5.xxx เป็นตัวอักษรโรมันที่แปลว่า"โป๊" หรือ "เกี่ยวกับเรื่องเพศ"เป็นคำคุณศัพท์ และคนไทยเอาไปใช้ในกระทู้พันธ์ทิพย์เป็นคำกิริยาคือ to have sex หรือ have intercourse with เหมือนกับคำว่า "อึ้บ"
6. ขำๆ แปลว่า ตลก เฮฮา ไม่จริงจัง ภาษาอังกฤษน่าจะเป็น just for fun หรือ casual (คำคุณศัพท์)
7สับ แปลว่าโจมตี ว่ากล่าวในเรื่องไม่ดี ภาษาอังกฤษน่าจะเป็น criticize หรือ attack หรือ scold ที่แปลว่าด่า
8.เผางาน แปลว่า ทำงานแบบลวก ๆ เพื่อให้มันเสร็จไป น่าจะเป็น to finish the urgent work roughly /carelessly
9.แอ๊บแมน เป็นคำแสลงของกระเทย แปลว่าคนที่เป็นเกย์แต่พรางตัวเอง ภาษาอังกฤษคือ closeted
10.ควาย เป็นคำด่า ซึ่งผมไม่รู้เหมือนกันว่าคนไทยนิยมใช้ตั้งแต่เมื่อไรแต่น่าจะเป็นคำแสลง เช่น "ควาย" สำหรับฝรั่งจะใช้คำว่า Idiot , stupid และ numbskull (กระโหลกชา) และคนไทยยังใช้ว่า "มุขควายๆ " หรือมุขตลกแบบโง่ๆ ดังนั้นจึงน่าจะป็น the silly gag (gag แปลว่ามุข)
11.แฮ๊บ แปลว่าแอบขโมยของเล็กๆ น้อยๆ เช่นนั่งกินข้าวในโรงแรมก็แอบเอาซ้อมหรือช้อมใส่กระเป๋าเป็นคำน่ารักที่ใช้เพื่อให้พฤติกรรมดูดีกว่าเดิมสักหน่อย ภาษาอังกฤษเขาใช้คำว่า steal ทั้งนั้นแต่ถ้าเป็นขโมยของในห้างสรรพสินค้าเค้าใช้คำว่า shoplifting
12.เด็กแวนท์ /เด็กแว้นต์/เด็กแว้นซ์ ใช้กับพวกที่ชอบขี่มอเตอร์ไซด์รวมกลุ่มกันเพื่อแข่งบนถนนตอนดึกๆ ใครชนะก็เอาเด็กสาวที่นั่งซ้อนท้ายของอีกฝ่ายมาร่วมหลับนอนด้วย คำว่า แวนท์ (หรืออะไรสักอย่างนี่แหละ) เป็นเสียงบิดของมอเตอร์ไซด์ แต่ตอนนี้เค้าก็นิยมใช้กับวัยรุ่นกลุ่มอื่นด้วย ดังนั้นภาษาอังกฤษน่าจะเป็น reckless youth หรือพวกเด็กวัยรุ่นบ้าระห่ำไม่คิดถึงอนาคตของตัวเอง มาดูอีกทีก็น่าจะเหมือนกับคำว่า เด็กเกรียน คือเด็กกวนเท้า หรือ troublesome /annoying kid คือเด็กที่ชอบสร้างปัญหาหรือกวน ๆ
13.ชิลล์ ๆ สันนิฐานว่าคำนี้น่ามาจากคำว่า chill out แปลว่าสบาย ๆ ทำให้ผ่อนคลาย แต่คนไทยชอบบอกว่า "มันเป็นเรื่องชิลล์ ๆ " ความหมายน่าจะเป็น "It is a piece of cake"แปลว่า "เรื่องหมู ๆ"หรือ trifle ซึ่งแปลว่า "เรื่องขี้ประติ๋ว" นอกจากนี้ยังเจอในโฆษณา(แหกตาประชาชน)เช่นคำว่า ราคาชิลล์ ๆ ก็คือ cheap price
14.เอ๋อ คือ กริยาที่แปลว่า นิ่ง งงงัน สับสน ภาษาอังกฤษที่ตรงที่สุดน่าจะเป็น dumbfounded หรือ dumbfolded เป็นคำคุณศัพท์ นอกยังสามารถใช้คำว่า confused แปลว่าสับสน งงงวย หรือ surprise คือตกตะลึงด้วยก็ได้
15.ตีส คำนี้ย่อมาจากคำว่า artist แปลว่าศิลปิน ใช้กับคำว่า "อารมณ์"หรือ"อุปนิสัย"ก็ได้ อารมณ์ติสก็คืออารมณ์อ่อนไหวง่าย ชอบเปลี่ยนไปเปลี่ยนมา ไม่ค่อยมีความสม่ำเสมอในการทำงานคือถ้ามีอารมณ์ก็ลุยงานแบบไม่หลับไม่นอน แต่ถ้าไม่มีอารมณ์ก็นอนกระดิกเท้าเฉย นั่นคือ sensitive and temperamental ในหลายครั้งเราอาจจะรวมไปถึงนิสัยที่ชอบพูดถึงเรื่องซับซ้อนเช่น ศิลปะ ปรัชญา หรือเรื่องโรแมนติก สายลม แสงแดด ความสวยงามของบทกวี บุคคลที่มีนิสัยเช่นนี้เราจะเรียกว่า bohemian style
16.เด็กซิ่ว และเด็กเปอร์ คำว่าซิ่วกร่อนมาจาก fossil หรือซากสัตว์โบราณใช้กับนักศึกษาที่เคยเรียนมหาวิทยาลัยอื่นแล้วมาสอบใหม่ นั่นคือ The student who used to study in other university/faculty. และคำว่าเปอร์กร่อนมาจากว่า super หมายถึงนักศึกษาที่ใช้เวลาเรียนมากกว่าที่มหาวิทยาลัยกำหนด นั่นคือ The student who has studied in more than required time.
17.เด็กแนว ขอแปลจากวิกกีพิเดียไทยเลยก็แล้วกันนะครับว่า"เป็นลักษณะของกลุ่มสังคมวัยรุ่นในวัฒนธรรมสมัยนิยม โดยกล่าวว่า เด็กสมัยใหม่ที่ไม่ตามแฟชั่น ไม่ตามใคร มีหัวคิดเป็นของตัวเอง ลักษณะการแต่งตัวแปลกใหม่เป็นจุดเด่น " และผมก็ขอไม่ลงทุนโดยการยกมาจาก wikipedia ภาษาอังกฤษอีกทีคือ hipster (ซึ่งเป็นที่มาของคำแสลงที่ไม่ค่อยนิยมคือเด็กฮิป) ก็คือ an individual who avoids and often explicitly rejects whatever is seen as mainstream or corporate in nature, instead embracing alternative forms of expression.
18.จีบ คำนี้ไม่ได้หมายถึงการเกี้ยวพาราสีของหนุ่มสาวเพียงอย่างเดียวหากปัจจุบันยังหมายถึงการขอร้องหรือเกลี่ยกล่อมให้ใครบางคนมาร่วมงานด้วยคำนี้น่าจะเป็น persuade หรือ urge
19.แป๊ก คำแสลงโบราณที่ผมได้ยินมาตั้งแต่เด็ก มักจะใช้กับเรื่องของราชการเช่น เงินเดือนแป๊ก คือเงินเดือนไม่ขึ้น ภาษาอังกฤษคือ His salary is not raised anymore.หรือ ข้าราชการคนนั้นถูกแป๊กให้ไปอยู่ที่อื่น นั่นคือ He is transferred to the place which is inferior to the former. นั่นคือเขาถูกย้ายให้ไปอยู่ที่อื่นซึ่งด้อยกว่าที่เก่า
20. เบนโล มาจากเหตุการณ์ของนางเอกสาวที่ท้องแล้วโกหกว่าตัวเองไม่ท้องโดยบอกว่าที่อวบอัดเพราะกินเบนโล สื่อมวลชนโดยเฉพาะสายบันเทิงจึงใช้คำนี้กับดาราสาวที่ดูน่าสงสัยว่าจะท้องเพราะเปล่งปลั่งเป็นพิเศษแต่ทำเป็นเฉย ภาษาอังกฤษที่น่าจะแปลได้อย่างครอบคลุมคือ
http://mcpswis.mcp.ac.th/html_edu/cgi-bin/mcp/main_php/print_informed.php?id_count_inform=13594
เป็นห่วงนะ
เรียกชื่อเขา แล้วบอกว่า " คิดถึง จุ้บ "
ใช้ คำว่า ชอบแทน ครับ
ก็เขิน ที่จะบอกรัก ก็บอกชอบก่อน ค่อยพัฒนาเป็น รักไงครับ
อยากอยู่ใกล้ๆนะ
จุ๊บๆ
ใช้การกระทำ หรือท่าที ที่แสดงออกสิครับ มันสำคัญกว่าคำพูด ที่เป็นลมปาก มากนะครับ
ไม่ต้องพูด แต่ใช้การแสดงออก เป็นการสื่อความหมายให้เขาได้รับรู้
คนรักกัน มักจะมีสัมผัสพิเศษรับรู้ความรู้ึสึกของกันและกัน
ไม่พูดอะไรเลยค่ะ ใช้ภาษามือและแววตา กับรอยยิ้ม
กอดด้วยความรักแววตาที่จริงใจและความรู้สึกที่มันออกมาจากใจเรา แค่นี้คงมากกว่าคำว่ารักแล้วล่ะคะ
อยู่ใกล้ๆจะใช้การแสดงออกมากว่าอะ อ้อนๆนิดนึง
http://guru.google.co.th/guru/thread?tid=21f2cec238e8170c
เรียกชื่อเขา แล้วบอกว่า " คิดถึง จุ้บ "
ใช้ คำว่า ชอบแทน ครับ
ก็เขิน ที่จะบอกรัก ก็บอกชอบก่อน ค่อยพัฒนาเป็น รักไงครับ
อยากอยู่ใกล้ๆนะ
จุ๊บๆ
ใช้การกระทำ หรือท่าที ที่แสดงออกสิครับ มันสำคัญกว่าคำพูด ที่เป็นลมปาก มากนะครับ
ไม่ต้องพูด แต่ใช้การแสดงออก เป็นการสื่อความหมายให้เขาได้รับรู้
คนรักกัน มักจะมีสัมผัสพิเศษรับรู้ความรู้ึสึกของกันและกัน
ไม่พูดอะไรเลยค่ะ ใช้ภาษามือและแววตา กับรอยยิ้ม
กอดด้วยความรักแววตาที่จริงใจและความรู้สึกที่มันออกมาจากใจเรา แค่นี้คงมากกว่าคำว่ารักแล้วล่ะคะ
อยู่ใกล้ๆจะใช้การแสดงออกมากว่าอะ อ้อนๆนิดนึง
http://guru.google.co.th/guru/thread?tid=21f2cec238e8170c
naughty ; dirty (referring to something sexually suggestive)
ทะลึ่งตึงตัง ; impolitely ; impertinently
-------------------------------------------------------
สวัสดีค่ะ Andrew คำว่า ทะลึ่ง ใช้พูดเล่นกับคนรู้จัก เช่น เรากำลังทำอะไรอยู่แล้วมีคนมาแหย่ เราต้องการพูดว่า ทะลึ่ง! จังเลยเธอนี่ จะใช้อย่างไร
ขอบคุณมากค่ะ Pen
คำว่า ทะลึ่ง แปลยาก เพราะ ความทะลึ่ง มีหลายระดับ แบบ ทะลึ่งจริง จนถึงการใช้ในภาษาพูดอย่างที่คุณได้ยกมา
ถ้าเป็นเรื่องสนุกสนานผมว่า ต้องพูดทำนอง You?re terrible! หรือ You?re awful! ด้วยรอยยิ้มสยามประกอบด้วย สองประโยคนี้หมายถึง คุณนี่แย่จัง แต่คุณพูดเล่นกับเพื่อนนะครับ
บางคำใช้ You?re out of line! เป็นสำนวน หมายถึง คุณทำตัวไม่ถูก, พูดอะไรไม่สุภาพ ใช้พูดเล่นๆ ได้ ขึ้นอยู่กับน้ำเสียง
ส่วน อย่าทะลึ่ง คือ?Don?t be cheeky! หรือ You?re being cheeky! เพราะ cheeky คำนี้เป็น adjective ใช้กับใครที่พูดหรือทำอะไรทะลึ่ง ชาวอเมริกันจะพูดว่า Don?t be fresh! หมายถึง อย่าทะลึ่ง
สำหรับใครที่ถามว่า แล้ว impolite ใช้ได้ไหม (Don?t be impolite!) ผมว่าคำนี้หมายถึง ไม่สุภาพ ไม่ใช่ ทะลึ่ง แต่ลองใช้ impudent แทน (Don?t be impudent!) เพราะคำนี้น่าจะแปลว่า ทะลึ่งเหมือนกัน
พบกันใหม่ อย่าลืมว่าภาษาอังกฤษง่ายนิดเดียวครับ
ทะลึ่งตึงตัง ; impolitely ; impertinently
-------------------------------------------------------
สวัสดีค่ะ Andrew คำว่า ทะลึ่ง ใช้พูดเล่นกับคนรู้จัก เช่น เรากำลังทำอะไรอยู่แล้วมีคนมาแหย่ เราต้องการพูดว่า ทะลึ่ง! จังเลยเธอนี่ จะใช้อย่างไร
ขอบคุณมากค่ะ Pen
คำว่า ทะลึ่ง แปลยาก เพราะ ความทะลึ่ง มีหลายระดับ แบบ ทะลึ่งจริง จนถึงการใช้ในภาษาพูดอย่างที่คุณได้ยกมา
ถ้าเป็นเรื่องสนุกสนานผมว่า ต้องพูดทำนอง You?re terrible! หรือ You?re awful! ด้วยรอยยิ้มสยามประกอบด้วย สองประโยคนี้หมายถึง คุณนี่แย่จัง แต่คุณพูดเล่นกับเพื่อนนะครับ
บางคำใช้ You?re out of line! เป็นสำนวน หมายถึง คุณทำตัวไม่ถูก, พูดอะไรไม่สุภาพ ใช้พูดเล่นๆ ได้ ขึ้นอยู่กับน้ำเสียง
ส่วน อย่าทะลึ่ง คือ?Don?t be cheeky! หรือ You?re being cheeky! เพราะ cheeky คำนี้เป็น adjective ใช้กับใครที่พูดหรือทำอะไรทะลึ่ง ชาวอเมริกันจะพูดว่า Don?t be fresh! หมายถึง อย่าทะลึ่ง
สำหรับใครที่ถามว่า แล้ว impolite ใช้ได้ไหม (Don?t be impolite!) ผมว่าคำนี้หมายถึง ไม่สุภาพ ไม่ใช่ ทะลึ่ง แต่ลองใช้ impudent แทน (Don?t be impudent!) เพราะคำนี้น่าจะแปลว่า ทะลึ่งเหมือนกัน
พบกันใหม่ อย่าลืมว่าภาษาอังกฤษง่ายนิดเดียวครับ
- ABOUT
ブログ2
- カテゴリー
- ブログ内検索