忍者ブログ
Admin*Write*Comment
タイ語メモ
[1]  [2]  [3
×

[PR]上記の広告は3ヶ月以上新規記事投稿のないブログに表示されています。新しい記事を書く事で広告が消えます。

หรอ หรา อะไรนี่เป็นคำกร่อน วิบัติเพื่อนเน้นสะดวกตอนพิมพ์แชทกัน

ไม่งั้นก็หรือไปเลย

จะใช้ว่า "หรา" เวลากวนๆ มันนะ

ถ้าจะให้ดีต้อง หรออออออออออออออออออออออออออ หรือ หราาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาา จุดประสงค์คือการกวนทีนเพื่อน

แต่บางทีก็ใช้หรอในกรณีที่ลากเสียงในบทสนทนา
อารมณ์ หรอ จริงหรอ กับ เหรอ จริงเหรอ ก็ให้อารมณ์ต่างกันในบางสถานการณ์นะ

ชอบใช้คำว่า หรือ อ่ะ แลดูแก่
PR
จากความว้าวุ่นใจ เราเริ่มรู้สึกว่าตัวเองเป็นคนไร้ค่า อารมณ์ภายในเริ่มหมองมัวลงอย่างช้าๆ เราพยายามที่จะหลีกหนีความรู้สึกนี้โดยการออกไปพบปะเพื่อนฝูงและทำกิจกรรมต่างๆ
แห่ะ แห่ะ (หัวเราะแบบแก้ตัวไปที)
หุ หุ (อาจจะเป็นการหัวเราะแบบสะใจก็ได้)
หึ หึ (หัวเราะแบบมีเลศนัย)
หุหุ เป็นการหัวเราะนิด ๆ แบบขำในอารมณ์ มีเลศนัยหน่อย ๆ ทำตาพราวมีรอยยิ้มเต้นยิบ ๆ อยู่ในตาค่ะ อิอิ เหอ ๆ เคี้ยก ๆ
หุหุ ส่งข้อความเป็นประมาณแซวเพื่อน ก็ลงท้าย หุหุ
หุหุ บ้างครั้งต้องการหัวเราะ แบบ มีอะไรแอบแฝง ก็ใช้ หุหุ ฯลฯ มีหลากหลายครับ..ขึ้นอยู่กับผู้ใช้ และสถานะการณ์
หุหุ จากการคาดเดาน่าจะผันมาจากคำว่า "หิหิ" แต่เพื่อให้สุภาพหน่อย ก็เป็น "หุหุ" เหมือนกับหัวเราะอยู่ในลำคอ ขยับปากนิดหนึ่งเพื่อให้น้ำเสียงออกมาสุภาพมากกว่าคำว่า "ฮ่า..ฮ่า"หรือ "55"
คิคิ แต่สำหรับตัวเองมักใช้คำว่า คิ..คิ (แอ๊บแบ้วดี..คิ..คิ)
หุหุ ผมใช้สื่อในการแซว ล่ะนะ
หุหุ อาจเป็นการหัวเราะแบบอยู่ในลำคอก็ได้ม้าง หัวเราะแบบสะใจนิโหน่ยน่ะ

เลศนัย...hidden motive ขยิบตาให้รู้เป็นเลศนัยว่าให้หยุดพูด.
เจื่อน...to be embarrassed, to shy off
"ยิ่งต่อความ เรื่องมันก็จะยิ่งไปกันใหญ่ มันจะไม่ใช่แค่เหน็บด่า มันกำลังบานปลายถึงขั้นทำร้ายร่างกายกันแล้ว ฉันว่าหยุดไหมลี" ดลฤดีเอ่ยอย่างเป็นห่วง

http://dara.truelife.com/novel/54860/7/55467

ตามใจมากเกินไป เด๋วจะเหลิงนะขอบอก

หอย
จิ๋ม
ปิ๊
เป็นคำอุทาน ไม่มีความหมายชัดเจน แล้วแต่สถานการณ์

เหอะๆ = หัวเราะ
เหอะๆ - หัวเราะแบบเหยียดหยาม ประมาณว่าเรื่องของมืง กุไม่สนใจ

ฟังแล้วเหมือนโดนดูถูก หรือ แบบว่า ไม่สนใจเราเลยอ่ะค่ะ
เหมือน ไม่มีอะไรจะพูด
กุว่าแม่ม เหมือนไม่เตมใจคุยอ่ะ

เหอะ อืม เออ ....โคดเกลียดเลยแย่จิง
อืม ....ความจริงมันก็เสียงตอบรับในลำคอปกติอ่ะนะ แต่กุเกลียดจิงๆ เวลาใครพิม เหมือนมันหยิ่งๆไร้เยื่อไย หัวถอก

http://bbs.pramool.com/webboard/view.php3?katoo=C50354
จนกระทั่งปี 2445 รัฐบาลต้องการพัฒนาการแพทย์ด้านการรักษาผู้ป่วยโรคจิต จึงอนุญาตให้สร้างโรงพยาบาลคนเสียจริตขึ้นใหม่ ซึ่งก็คือ โรงพยาบาลสมเด็จเจ้าพระยา ในทุกวันนี้ โดยเปิดรับคนไข้ได้เมื่อเดือนกันยายน โรงพยาบาลแห่งใหม่นี้มีลักษณะเป็นโรงพยาบาลแบบตะวันตก เปลี่ยนแปลงวิธีการดูแลจากการคุมขัง และการรักษาแผนโบราณมาเป็นการรักษาแบบแพทย์แผนปัจจุบัน มีการเลี้ยงดูอาหาร การหลับนอนต่างๆ ให้บริบูรณ์ขึ้น เลิกการล่ามโซ่อย่างแต่ก่อน และพยายามให้เป็นรูปแบบโรงพยาบาลจริงๆ ถึงแม้เรือนไม้หลายหลังยังกั้นห้องด้วยลูกกรง และคนไข้ยังต้องนอนกับพื้นอยู่ก็ตาม

โรงพยาบาลคนเสียจริตแห่งใหม่นี้อยู่ในความดูแลของนายแพทย์ชาวอังกฤษ งานชิ้นสำคัญนอกจากการวางผังป่าอันสวยงามร่มรื่น โดยถือหลักว่า ป่าเป็นเครื่องหมายของการระบายทุกข์ และความสงบแห่งจิตแล้ว ท่านยังเป็นผู้ที่ทำให้เกิดศัพท์แสลงว่า "หลังคาแดง" อันลือลั่นจากการไปเหมาซื้อสีแดงค้างสต็อกราคาถูกคุณภาพดีมาผสมน้ำมัน แล้วทาหลังคาอาคารสังกะสีทุกหลังเพื่อป้องกันสนิม ทำให้หลังคาโรงพยาบาลจึงเป็นสีแดงเพลิงสะดุดตาคนทั่วไป เป็นที่มาของสมญา "หลังคาแดง" ที่เรียกกันติดปากมาจนปัจจุบันนั้นเองครับ..

http://www.dek-d.com/content/all/13035/
การหลอกลวงที่น่าสมเพชที่สุดคือการหลอกลวงตัวเอง


http://www.bloggang.com/mainblog.php?id=penline&month=10-01-2010&group=29&gblog=1
พี่คงทำได้แค่ให้กำลังใจอยู่ห่างๆ พยายามเข้านะ



สิ่งเล็กๆที่เรียกว่ารัก.....ในมุมของเปลวไฟ[Spoil]
魚拓
  • ABOUT
ブログ2
Copyright © タイ語メモ All Rights Reserved.*Powered by NinjaBlog
Graphics By R-C free web graphics*material by 工房たま素材館*Template by Kaie
忍者ブログ [PR]